จากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด – 19 ที่ลดลง ไม่มีแนวโน้มปรากฏผู้ติดเชื้อรายใหม่ในหลายพื้นที่เป็นระยะเวลาหนึ่งส่งผลให้หลายประเทศเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ และมาตรการการควบคุมโควิด เช่น การเปิดให้เดินทางข้ามจังหวัด การเปิดเรียน และการให้กลับไปทำงานในที่ทำงานได้ เป็นต้น โดยยังคงมาตรการบางอย่างเช่น ให้มีการรักษาระยะห่างทางกายภาพ สวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยในช่วงที่คลายล็อกดาวน์
อย่างไรก็ตามในห้วงที่มีการผ่อนปรนมาตรการในหลายประเทศ เช่น จีน เกาหลีใต้ เยอรมนี รวมถึงไทยได้เริ่มประกาศว่าควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ ก็เกิดการระบาดระลอกสองขึ้นในหลายประเทศ ประเทศที่พบการติดเชื้อประเทศแรกในโลกอย่างจีน เกิดการระบาดระลอกสองในปักกิ่งหลังจากปราศจากผู้ติดเชื้อรายใหม่มากว่า 50 วัน โดยจุดที่เกิดการระบาดคือตลาดซินฟาตี้ ตลาดค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในเมือง มีการตรวจพบไวรัสบนเขียงที่ใช้แล่ปลาแซลมอนนำเข้าจากต่างประเทศ มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อจากการระบาดครั้งนี้ 45 ราย ผู้ติดเชื้อเหล่านี้ไม่ปรากฏอาการป่วยแต่อย่างใด ทั้งนี้การระบาดจากตลาดซินฟาตี้ยังแพร่ไปยังมณฑลเหลียวหนิง เหอเป่ย์ และเสฉวนด้วย
เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่ตรวจพบจำนวนผู้ป่วย 47 คนไม่กี่วันหลังจากที่มีการประกาศยกเลิกระบบเตือนภัยโควิดในโตเกียว เพื่ออนุญาตให้ธุรกิจทุกประเภทกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง การติดเชื้อระลอกใหม่เกิดขึ้นในกรุงโตเกียว โดยทั้ง 47 คน เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแหล่งสถานบันเทิงในเขตชินจูกุ นอกจากที่โตเกียวแล้วญี่ปุ่นยังพบการระบาดระลอกสองที่เกาะฮอกไกโดอีกด้วยหลังมีการคลายมาตรการล็อกดาวน์และยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้ไม่ถึงเดือน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในฮอกไกโดอย่างน้อย 135 ราย
แม้จะมียุทธศาสตร์รับมืออย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบการตรวจเชื้อ แต่เกาหลีใต้ก็มิอาจเลี่ยงการระบาดครั้งใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้ต้องกลับมาใช้มาตรการป้องกันโรคบางมาตรการอีกครั้ง หลังจำนวนผู้ป่วยโควิด – 19 เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมหลังจากเกิดกลุ่มระบาดในเมื่อบูชอนและย่านอีแทวอนที่พบผู้ติดเชื้อกว่า 300 ราย จนทำให้ต้องสั่งปิดโรงเรียนในเมืองกว่า 251 แห่ง และหลายโรงเรียนต้องชะลอการเปิดเรียนไปอีก

สำหรับนิวซีแลนด์ประเทศที่ผู้นำได้รับคำชื่นชมอย่างมากประเทศหนึ่งกับมาตรการการบริหารจัดการรับมือสถายการณ์อย่างรวดเร็วนั้น ก็ปรากฏผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 รายหลังจากไม่พบผู้ติดเชื้อมานาน 24 วัน ผู้ติดเชื้อทั้งสองรายเป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักรเพื่อเยี่ยมผู้ปกครองที่กำลังจะเสียชีวิต ซึ่งเป็นกรณีที่ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ เมื่อราวอาทิตย์ก่อนนิวซีแลนด์ได้ลดระดับมาตรการรับมือโควิด – 19 สู่ระดับต่ำสุดจนเป็นหนึ่งในประเทศจำนวนไม่มากที่กลับไปสู่ภาวะปกติก่อนมีโรคระบาด แน่นอนว่ามาตรการอย่างการเว้นระยะห่างทางกายภาพและการชุมนุมหรือรวมตัวของผู้คนนั้นสามารถทำได้เช่นกัน ในส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างออสเตรเลีย ปรากฏผู้ป่วยรายใหม่ 4 คนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ถือเป็นการเจอครั้งแรกนับแต่ปลายเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา โดยผู้ป่วยที่พบมีอาการเล็กน้อยหรือแทบไม่มีอาการเลย
ข้ามมาที่ฝั่งของยุโรปเยอรมนีเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับการกล่าวถึงในด้านมาตรการที่รวดเร็วก็กลับมาตรวจพบผู้ป่วยอีกครั้งหลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลทำให้นายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคิล ได้สั่งให้ทางการท้องถิ่นพิจารณากลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งหากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในพื้นที่นั้น ๆ เพิ่มขึ้นเกิน 50 คน ต่อประชากร 100,000 คน

และในส่วนของประเทศที่มีประชากรมาก พื้นที่กว้างและมีสถานการณ์น่ากังวลจากผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้ลดลงมากนักประเทศหนึ่งคืออินเดียที่เริ่มมีการคลายล็อกดาวน์มาจนถึงระยะที่ 4 แต่จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ในอินเดียยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในหลักหมื่น และอีกประเทศหนึ่งคือสหรัฐอเมริกาที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นอันดับหนึ่งของโลก ปรากฎการระบาดระลอก 2 ในหลายรัฐ เช่น เท็กซัส ฟลอริดาและวอชิงตัน จนทำให้แผนคลายล็อกดาวน์ต้องถูกชะลอลงในหลายรัฐ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลกระทบที่เกิดจากมาตรการการล็อกดาวน์ที่ผ่านมานั้นส่งผลเสียที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมในหลายประเทศ เช่น ผู้คนจำนวนมากต้องเสียงานประจำ เด็ก ๆ จำนวนมากไม่ได้ไปโรงเรียน และคนต้องเผชิญกับความเครียดและการป่วยใจมากขึ้น จนทำให้หลายประเทศพยายามคลายหรือผ่อนปรนมาตรการการล็อกดาวน์ให้ได้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตามสิ่งที่อาจก่อให้เกิดการระบาดรอบสอง คือการคลายล็อกดาวน์ที่มากเกินไป ควรมีการพิจารณาเป็นรายพื้นที่ตามสถานการณ์มากกว่าการประกาศคลายล็อกดาวน์หรือผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ แบบเดียวกันทั่วประเทศ มาตรการที่ควรรักษาไว้หลังคลายล็อกดาวน์ตัวอย่างเช่น การสวมหน้ากาก การรักษาระยะห่างทางกายภาพ และการกักบริเวณเพื่อดูอาการป่วยของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี่ควรดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการสุ่มตรวจเชิงรุก
บทเรียนที่เกิดขึ้นในประเทศเหล่านี้จึงชี้ให้เห็นโจทย์สำคัญสำหรับประเทศไทยที่เริ่มมีการคลายการล็อกดาวน์ และผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เป็นระยะเช่นกันว่าควรดำเนินการอย่างไร อะไรที่ควรผ่อนคลาย ผ่อนปรน อะไรที่ควรรักษาไว้โดยคำนึงถึงความได้สัดส่วนระหว่างสุขภาพ เศรษฐกิจ และคุณค่าด้านอื่น ๆ ในชีวิตของผู้คน ทั้งนี้หากมีการระบาดรอบสองเกิดขึ้นก็ควรเตรียมพร้อมรับมือและวางโครงสร้าง ระบบต่าง ๆ ให้กลับไปใช้มาตรการดังเช่นตอนที่มีการล็อกดาวน์จากการระบาดระลอกแรกโดยคำนึงถึงผลที่อาจตามมาจากการล็อกดาวน์ด้วยดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
รายการอ้างอิง
https://marketeeronline.co/archives/162151
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/887128
https://www.bbc.com/news/world-asia-china-53034924
https://www.thebangkokinsight.com/377784
https://www.thansettakij.com/content/world/438496
https://www.bbc.com/thai/international-53056795
https://www.bbc.com/news/health-53113785