เด็กเมืองไอคิวสูงแต่หยุดนิ่ง

จากการแถลงผลสำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญา(ไอคิว) ของ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และระดับความฉลาดทางอารมณ์ (อีคิว) ของเด็กไทยช่วงชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในปี 2559 กว่า 23,644 คน พบว่าเด็กไทยมีค่าเฉลี่ยไอคิวอยู่ที่ระดับ 98.2 ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากการวัดผลเมื่อปี 2554 โดยขณะนั้นอยู่ที่ระดับ 94 แต่ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมา 4.2 นี้ ผู้เชี่ยวชาญก็ยังมองว่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากลที่กำหนดอยู่ในระดับ 100

ประเด็นที่น่าสนใจ คือ เด็กไทยที่มีไอคิวสูงส่วนใหญ่ระดับไอคิวกลับหยุดนิ่ง สาเหตุหลักมาจากการใช้แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน เล่นเกม หรือโปรแกรมอื่นมากเกินไป จนทำให้ไม่มีการพัฒนาทางด้านความคิด จึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่ต้องหันมาสนใจหาแนวทางที่จะให้สติปัญญาของเด็กไทยมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างแท้จริงและต่อเนื่อง

สาเหตุสำคัญนั้นมาจากการใช้แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน มากจนเกินไป จึงทำให้เด็กขาดพัฒนาทางความคิด ซึ่งปัจจัยหนึ่งมาจากการที่ผู้ปกครองเข้าใจผิดคิดว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะเป็นตัวช่วยในการเพิ่มความฉลาดให้กับเด็กๆนั่นเองค่ะ จึงอาจปล่อยให้เด็กเล่นเพียงลำพังโดยไม่ได้ติดตามดูแล จึงมีความเสี่ยงที่จะทำให้สติปัญญาไม่ได้รับการพัฒนาอย่างที่ควรจะเป็น

การปล่อยให้เด็กๆที่จมอยู่กับอุปกรณ์เหล่านี้มากจนเกินไป จะเป็นตัวดึงรั้งพัฒนาการทางด้านความคิดการเรียนรู้ การอ่าน การเขียน รวมไปถึงการอยู่ร่วมในสังคมให้เกิดการชะงัก ซึ่งในเด็กกลุ่มนี้ต้นทุนชีวิตไม่ได้แย่ แต่ถูกละเลยจากการเลี้ยงดูโดยที่ผู้ปกครองเอาแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ไปเลี้ยงดูนั่นเอง

แต่ก็ใช้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะไม่มีประโยชน์นะคะ เพียงเราเลือกใช้ให้เกิดประโยชน์ เข้าให้ถึงข้อมูลข่าวสาร ไม่ควรหมกมุ่นอยู่กับข้อมูลที่เป็นพิษที่ทำให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น เช่น เกมหรือโปรแกรมที่มีลักษณะเกี่ยวกับการต่อสู้ แข่งขัน ช่วงชิง ทำร้ายกัน ซึ่งตรงนี้เป็นตัวอย่างที่เห็นชัดว่า เทคโนโลยีก็ไม่ได้ให้ประโยชน์เสมอไป การใช้เฟซบุ๊ก ไลน์ หรือโซเชียลมีเดียอื่นๆให้ถูกวิธี ควรรู้เท่าทันก่อนการใช้ หรือควรเลือกศึกษาสื่อที่มีประโยชน์ โดยที่จะต้องมีวินัยในการใช้ด้วยนอกจากนี้คุณพ่อ คุณแม่ ครู หรือผู้ที่เกี่ยวข้องควรช่วยอธิบายให้เด็กๆใช้สื่อให้เกิดประโยชน์ และรู้จักควบคุมตัวเองในการใช้สื่อให้ได้ เท่านี้ไอคิวและการใช้สื่ออย่างเท่าทันก็จะตามมา แต่การพัฒนาไอคิวของเด็กๆนั้น ด้านการเลี้ยงดูและคุณค่าทางโภชนาการก็สำคัญไม่แพ้กัน