เจาะลึกตลาด “เด็ก” กลุ่มเป้าหมายที่ไม่ควรมองข้ามในยุคดิจิตอล

รอบตัวเราวันนี้มองไปทางไหนก็จะเห็นผู้คนก้มหน้าง่วนกับการใช้งานสมาร์ท โฟนและแท็บเล็ต แน่นอนว่าไม่เพียงผู้ใหญ่ เด็กน้อยทั่วโลกก็สาละวนกับการใช้งานอุปกรณ์ไอทีเหล่านี้เช่นกัน เว็บไซต์ Everydayfamily.com มองเห็นทิศทางตลาดที่เกิดขึ้นนี้จึงสรุปรูปแบบการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยี เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของเด็กอายุไม่เกิน 12 ปีในสหรัฐฯไว้อย่างละเอียด ซึ่งอาจเป็นทิศทางที่มีความคล้ายคลึงกับเด็กไทยบางครอบครัว

การสำรวจพบว่าในกลุ่มเด็กอายุระหว่าง 5-8 ปี จัดเป็นกลุ่มที่มีการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีเคลื่อนที่หรือ Mobile Technology มากที่สุดมาเป็นอันดับที่ 1 (54%) รองลงมาเป็นอายุเฉลี่ยระหว่าง 2-4 ปี (39%) และอายุระหว่าง 0-1 ปี ตามมาเป็นอันดับที่ 3 (10%)

ผลการสำรวจยังแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้ Mobile Technology โดยเฉพาะแท็บเล็ต ซึ่งพบว่าถูกใช้เพื่อเล่นเกมส์มากที่สุด (77%) ตามมาด้วยการใช้งานเกี่ยวกับการศึกษา (57%) หาข้อมูลด้านท่องเที่ยว (55%) รวมไปถึงดูรายการทีวี (43%) ดูข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหาร (41%) และแชทกับเพื่อน (15%)

เห็นได้ชัดว่าการที่กลุ่มเด็กมีจำนวนการใช้งานแท็บเล็ตที่เพิ่มมากขึ้น อาจเป็นผลมาจากการสนับสนุนจากโรงเรียน โดยการสำรวจพบว่าโรงเรียนในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มีการนำ iPad มาใช้แทนการใช้หนังสือเรียนมากกว่า 600 โรงเรียนทั่วประเทศ รวมไปถึง iPad รุ่นใหม่กว่า 47,000 เครื่องยังถูกขายให้กับหลายโรงเรียนในสหรัฐฯหลังวางขายเพียงแค่ 45 วันอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการใช้งาน Mobile Technology ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง สังคมโลกส่วนใหญ่ยังถกเถียงกันว่าการนำเทคโนโลยีอย่างแท็บเล็ตมาใช้ในกลุ่ม เด็กจะมีข้อดีหรือข้อเสียมากกว่ากัน โดยผลการสำรวจพบว่า แท็บเล็ตมีข้อดีที่ช่วยพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงเป็นตัวกระตุ้นในการเรียนหนังสือมากขึ้น ซึ่งเด็กกว่า 3 ใน 4 บอกว่าชอบการเรียนโดยใช้แท็บเล็ตมากกว่าการใช้หนังสือเรียน และเด็กอีก 90% ยังเชื่อว่าการใช้แท็บเล็ตช่วยให้การเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

ขณะที่แอพพลิเคชันที่เกี่ยวกับการศึกษาก็ยังช่วยเพิ่มทักษะการเรียนรู้ ด้านคำศัพท์ในเด็กวัย 3 ปีได้เพิ่มขึ้น 17% และเด็กอายุ 5 ปีอีก 27%

แต่การใช้แท็บเล็ตก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไป เพราะยังมีข้อเสียที่ทำให้เด็กๆ ส่วนใหญ่ไม่อยากออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากผลการสำรวจที่พบว่า มีเด็กรู้วิธีการเล่นเกมส์ คอมพิวเตอร์มากถึง 70% แต่กลับมีเด็กที่รู้วิธีว่ายน้ำเพียงแค่ 20% เท่านั้น

ท้ายสุดคงจะขอฝากไว้ 2 ประเด็นคือ 1. คงจะดีไม่น้อย ถ้าบริษัทวิจัยจะเจาะลึกสำรวจตลาดเด็กในเมืองไทยบ้าง 2. คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ต้องเข้าใจว่าอุปกรณ์ไอทีนั้นช่วยเรื่องการเรียนรู้ด้าน สมองจริง แต่ในแง่ของร่างกาย พลานามัยนั้นก็จำเป็น คุณจำเป็นต้องแบ่งเวลาให้ลูกได้อยู่กับดินหญ้าใบไม้ ในสัดส่วนเวลาที่เหมาะสมด้วย

ที่มา: Visual.ly